Carbon Footprint มาทำความรู้จักเจ้ารอยเท้าคาร์บอน
"ปัญหาต่างๆ
เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมอันเนื่องมาจากมลพิษหรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่หนึ่งที่ใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงที่อื่นๆ
ด้วย"
รอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) เป็นการวัดผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีต่อระบบสิ่งแวดล้อมในแง่ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สร้างขึ้นมาจากกิจกรรมนั้นๆ
โดยวัดคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา รอยเท้าคาร์บอนใช้ประเมินว่าคน ประเทศ
หรือองค์กรหนึ่งๆ สร้างผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนมากน้อยเพียงใด
วิธีการหลักของรอยเท้าคาร์บอนคือ
ประเมินปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาสู่สิ่งแวดล้อมและประเมินความมากน้อยในการส่งเสริมพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดขององค์นั้น
เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ หรือการปลูกป่า
รอยเท้าคาร์บอนเป็นส่วนย่อยของรอยเท้าระบบนิเวศ (Ecological footprint) ซึ่งจะรวมเอาความต้องการของมนุษย์ทั้งหมดในระบบชีวนิเวศน์เข้าไปด้วย
Carbon
Footprint (CF) เป็นค่าทางวิทยาศาสตร์ที่คำนวณปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากผลิตภัณฑ์หรือกิจกรรมต่างๆ
สู่บรรยากาศ
โดยคำนวณออกมาในรูปคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ซึ่งการวัดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีทั้งทางตรงและทางอ้อม
Carbon
footprint กับชีวิตประจำวัน
กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราทุกคน
ล้วนมีส่วนที่ทำให้เกิด Carbon
Footprint ทั้งการเดินทาง การรับประทานอาหาร
กิจกรรมในครัวเรือน และในที่ทำงาน
เครื่องหมาย Carbon Footprint ที่จะติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ
นั้น เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่าตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่
กิจกรรมที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซพิษมากที่สุด
1. การใช้เชื้อเพลิงภายในองค์กรและบ้านเรือน
(15%)
2. กิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจ
(14%)
3. บริการสาธารณะ
(12%)
4. การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน
(12%)
5. การคมนาคม/เดินทาง
(ส่วนตัว) (10%)
6. การสร้างบ้านและการทำเฟอร์นิเจอร์
(9%)
7. โรงงานรถยนต์
(7%)
8. การเดินทางท่องเที่ยวด้วยเครื่องบิน
(6%)
9. อาหารและเครื่องดื่ม
(5%)
10. เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
(4%)
11. บริหารขนส่งสาธารณะ
(3%)
12. บริการการเงิน
(3%)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น